“Yes or No อยากรักก็รักเลย” ยอมรับว่าช่วงหลัง หนังไทย หลายเรื่อง มีความน่าสนใจในตัวบทกับเนื้อเรื่อง มากกว่าตัวดาราที่แสดง หรือฉากแอ๊คชันพันล้านเริ่มจะใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว โดยเฉพาะหนังที่พูดถึงเรื่องเพศที่ 3 ซึ่งหมด ยุคกระเทยออกมาแรด แด๊ดๆๆๆ ผ่านหน้าจอไปนานแล้ว
Related Articles
“Yes or No อยากรักก็รักเลย” สร้างจากพ็อคเก็ตบุ๊คขายดี 2 เล่มที่ชื่อ “Yes รักนี้ใช่เลย”, “No ก็ว่าจะไม่รัก” เขียนโดย ลลนล (เขียนอย่างนี้จริงๆ)
ซึ่งดูจากหน้าปก ก็แน่นอนว่าเป็นนิยายวัยรุ่นแนว Y ตามสมัยนิยม เดี๋ยวนี้วัยรุ่นเค้าไม่อ่านนิยายรักแล้วย่ะ เชย
ขอเรียกหนังเรื่องนี้ว่าหนังโคตรใหม่ละกัน ดูหนังออนไลน์ฟรี เพราะใหม่ไปหมด ไล่ตั้งแต่
- ผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ นาย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร (เป็นผู้ช่วยกำกับเรื่อง สิ่งเล็กๆ)
- โปรดฟังอีกครั้ง .. ผู้กำกับหญิง .. ชื่อ นาย สรัสวดี
- หนังเรื่องแรก ของค่ายหนังหน้าใหม่ “Come On Sweet” ก็มาจากชื่อสำนักพิมพ์ “Come On” เจ้าของหนังสือนั่นเอง
- นักแสดงก็หน้าใหม่ ไล่ตั้งแต่..
- “คิม” พระเอก ติ๊นา – ศุภนาฎ จิตตลีลา (ทอมอะไร ชื่อติ๊นา)
- “พาย” นางเอก น้องออม – สุชารัตน์ มานะยิ่ง อร๊ายยย น่ารักโฮก (ไม่ค่อยจะออกนอกหน้าเลยนะ)
- และหนังรักหญิงหญิง ก็เป็นหนังแนวใหม่สำหรับหนังไทย
- เป็นหนังรัก ใส ใส๊ ใส
- น้องออมแสดงดีมาก ส่วนน้องติ๊นาเล่นเป็นก้อนหินไร้อารมณ์เสมอต้นเสมอปลาย
- ซึ่งนั่นกลับเป็นข้อดีไปซะงั้น เพราะบทหนังต้องการคนแบบนี้แหล่ะ ทอมที่นิ่ง ขี้อ้อน จริงใจ ไม่ต้องพูดอะไรมาก
- เพลงเพราะ (มาก)
- ถ้าดูบทพูด จะรู้ได้ทันทีว่าผู้กำกับต้องเป็นผู้หญิงแน่นอน และต้องเข้าใจเรื่องทอมเป็นอย่างดี เพราะมันใช่มาก เค้าคุยกันแบบนี้แหล่ะ งอนกันแบบนี้ หึงแบบนี้ หวงแบบนี้
- น้องติ๊นาไม่ได้หล่อ แต่ออกไปทางน่ารัก ไม่แปลกใจถ้าผู้หญิงจะชอบ
- ประเด็นค้นหาตัวเองว่าชอบอะไรกันแน่ ยังไม่เด่นเหมือนหนังอย่าง “รักแห่งสยาม” ที่ปูเรื่องค้นหาตัวเองตลอดทั้งเรื่อง เสียดายหนังไปเน้นอาการหึงหวง งอนง้อ มากเกินไปหน่อย
- ฉากจูบกันทำได้ดี จนผู้ชายแท้ๆ ยังมีเคลิ้มและแอบขนลุกซู่
- จบได้ไม่ซึ้งเอาซะเลย เพราะหนังผ่านจุดพี๊กของมันไปแล้ว ตั้งแต่ฉากจูบ และฉากหักอกที่บ้านพาย
- ใครแพ้สาวน่ารักในชุดนักศึกษา ไปดูจะคุ้มมาก
- หนังตัดฉากที่เห็นใน Trailer กับ MV ไปหลายฉาก อย่างฉากพายจูบแวน (ดีละที่ตัด), ฉากจานพาย Snack คิม Cool, ฉากเจนก้มลงจูบคิม
- พบว่า 80% ที่ดูในโรงเป็นผู้หญิง
- ผมนั่งข้างๆ คู่รัก ญ-ญ คู่หนึ่งเลยล่ะ ชีก็อินกันจัดมาก พึมพำตลอดว่า ตรงนี้ใช่เลย ตรงนั้นตัวเองก็เคยทำ ตรงนี้เค้าก็เคยพูด
- มีคนเคยบอกว่า “ความรักของทอม เป็นความรักที่รอวันเจ็บ” .. ดูแล้วจะเข้าใจพวกเค้ามากขึ้นเยอะ
ภาพยนตร์เปิดฉากด้วยวันครบรอบการเป็นแฟนกันหนึ่งปี พายและคิมมอบของให้แก่กันและกัน พายให้ขนมกับคิม คิมให้จี้รูปผีเสื้อกับพาย มีข้อความอยู่ข้างในแต่คิมมิให้เปิดจนกว่าจะถึงวันที่พายไม่รักคิมแล้ว พายบอกว่าจะไม่มีวันจะได้เปิดมันแน่นอน
เมื่อถึงปีสุดท้ายของการเรียน เป็นปีที่สามของความรักระหว่างคิมและพาย ทั้งสองต้องไปฝึกงาน พายพยายามหาหนทางให้พาย คิม และเพื่อนได้ไปฝึกงานในที่เดียวกัน ถึงกับบนบานสานกล่าวและปฏิเสธที่ที่รับพายฝึกงานเพียงคนเดียว ในที่สุดก็หาที่พาย คิม และเต้ยไปฝึกงานพร้อมกันได้ที่จันทบุรี แต่ปรากฏว่าคิมได้แอบตอบรับฝึกงานเกษตรที่จังหวัดน่านไปแล้ว ทั้งสองจึงโกรธระหองระแหงกัน แต่ก็คืนดีกันได้ก่อนเดินทางไป โดยพายให้ผ้าพันคอทำมือผืนหนึ่งกับคิมก่อนไป
ในที่ฝึกงานที่จังหวัดน่านคิมได้พบกับแยม เด็กฝึกงานเกษตรอีกคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกันและค่อยๆ เรียนรู้กันอย่างรวดเร็ว การติดต่อระหว่างคิมกับพายถูกจำกัดด้วยงานที่หนักและความห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ คิมต้องออกไปโทรศัพท์ที่ปากทางโดยมีแยมอยู่เป็นเพื่อนเพราะคิมกลัวความมืด แยมรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองและเห็นว่าคิมทำทุกอย่างเพื่อพาย ทั้งที่พายขึ้หงุดหงิด จุกจิก เมื่อพายโกรธหรืองอน ไม่ว่าฝนตกฟ้าร้องอย่างไรคิมจะออกไปซื้อเค้กช็อกโกแลตให้ทาน ในขณะที่คิมโกรธ พายจะปล่อยคิมไว้ตัวคนเดียว แยมถามว่าแล้วแบบนี้ดีหรือ คิมบอกว่าเวลาทำให้พายมีความสุข คิมก็มีความสุข
คิมหนีงานที่น่านไปหาพายที่จันทบุรี คิมปวดหัวเป็นไมเกรนในขณะที่พายไม่ได้ใส่ใจอะไรทั้งที่เป็นวันเกิดของคิมด้วย วันรุ่งขึ้นคิมจึงรีบเก็บเสื้อผ้ากลับน่าน ด้วยความหุนหันพลันแล่นทั้งสองมีปากเสียงกันและพายหลุดปากไปบอกคิมว่า “เราเลิกกัน” เมื่อคิมกลับถึงน่านก็ชวนแยมโดดงานไปเที่ยวในเมืองต่ออีก พี่ที่ดูแลงานจับได้จึงเรียกคิมไปต่อว่า ทำให้คิมต้องทำงานหนักขึ้นและไม่มีโอกาสได้รับการติดต่อจากพายอีกเลย
ในวันลอยกระทง พายเดินทางมาที่น่านเพื่อตามหาคิม ได้พบกับน้าอินและแยม พายแสดงกริยาเป็นเจ้าของคิมต่อหน้าแยม ตั้งแต่ตอนกลางวันที่ทำกระทงจนถึงกลางคืนที่ลอยกระทง เมื่อตกค่ำเข้าห้องพายจึงถามคิมว่าคิมกับแยมคิดอย่างไรต่อกัน คิมตอบกลับว่ามาตั้งไกลแค่มาถามเรื่องคนอื่นเหรอ พายสวนกลับว่าก็คนอื่นมายุ่งกับคนของพาย คิมบอกว่าก็พายบอกเลิกคิมเอง ทั้งสองมีปากเสียงกันต่อมา คิมบอกว่าพายลองเป็นคิมบ้างไหม ที่ยอมโดดงานไปฉลองวันเกิดด้วยกันแต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ พายถามคิมว่าถ้าคิมไม่เคยเจอแยมพายจะผิดมากเท่าวันนี้ไหม พายงี่เง่าเหมือนเดิม เอาแต่ใจเหมือนเดิม แต่ทำไมจุ่ๆ พายทำอะไรก็ผิดไปหมด พายคืนจี้ผีเสื้อแก่คิมบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่ต้องใช้มัน
วันที่ฝึกงานเสร็จคิมบังเอิญเข้าไปในห้องของแยมและบังเอิญเห็นเรื่องราวรักสามเศร้าของทั้งสามที่แยมเขียนไว้ที่ฝาประตู แยมเข้ามาในห้องพอดี จึงบอกคิมว่าคิมเป็นรักแรกของแยม คิมเปลี่ยนใจไม่กลับบ้านและเข้าป่าเพื่อฝึกงานต่อกับแยม วันหนึ่งจี้ผีเสื้อที่พายคืนคิมตกหลุดออกจากกันกะทันหัน คิมเปิดออกมาเห็นข้อความที่ตัวเองเขียนไว้ “กลับมานะ รัก คิม” จึงทำให้ฉุกคิดได้และกลับไปดูพัสดุไปรษณีย์ที่พายส่งให้ในวันเกิดที่สวนทางกับคิมเดินทางไปจันทบุรี ในกล่องนั้นมีตุ๊กตาอัดเสียงพายไว้ พายขอบคุณที่คิมรักพายและอดทนมาตลอด พายบอกว่าจะทำตัวให้ดีขึ้น คิมกลับไปหาพาย ตากฝนรออยู่หน้าบ้าน พอพายยอมออกไปก็มีปากเสียงกันอีก พายบอกว่าความรักของเราไม่ยั่งยืน และขอให้คิมกลับไป
หนึ่งปีต่อมาทั้งคิมและพายต่างก็ทำงานแล้ว โดยพายไม่ยอมพบหน้าคิมเลย วันหนึ่งมีงานเกษตรที่พายต้องไปออกบูทซึ่งถูกบูทข้างเคียงแบ่งพื้นที่ไป พายใช้อารมณ์จะลากเส้นแบ่งเหมือนตอนแรกที่พายพบกับคิมในหอพักสมัยเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง ปรากฏว่าคนที่อยู่บูทข้างเคียงคือคิมนั่นเอง คิมยอมไว้ผมยาวอย่างที่พายชอบเผื่อว่าวันหนึ่งจะได้พบกับพาย คิมขอพายแต่งงานและบอกว่าเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาได้ทบทวนทุกอย่างเกี่ยวกับพายดีแล้วและจะเริ่มต้นกันใหม่ให้ดี คิมยังบอกอีกว่าความรักของทั้งสองไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ไม่ต้องมีลูกเป็นเครื่องยืนยันความรัก คนที่มีลูกด้วยกันเลิกรากันก็มีถมไป ภาพยนตร์จบลงด้วยฉากทั้งกอดกันและพายก็ดุคิมว่ายังไม่อนุญาตให้กอด
1. โครงเรื่อง (Plot)
– Minimalism : เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นความเรียบง่ายในการเล่าเรื่อง ค่อยๆ เปิดเผยลักษณะของตัวละครของแต่ละตัวทำให้เข้าใจในเรื่องราวได้ง่าย
2. ความขัดแย้ง (Conflict)
– ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับตัวเอง : เพราะคิมมีความขัดแย้งในการค้นหาอัตลักษณ์ของตัวเอง ไม่กล้าที่จะเปิดเผยความรู้สึก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองไม่ให้ไปหลงรักพายได้
3. ตัวละคร (Character)
– ตัวละครที่มีบุคลิกกลม : เพราะตัวละครมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัว เช่น คิม น่าตาดี เป็นคนจิตใตดี แต่เป็นคนที่ขี้กลัวผี , พาย น่าตาดี จิตใตดี แต่เป็นคนที่ใจร้อน งี่เง่า เอาแต่ใจตัวเอง
4. แก่นเรื่อง (Theme)
– แก่นแบบมองโลกในเชิงอุดมคติ (จบแบบขาขึ้น) : คือ เรื่องที่ให้ความหวัง มองโลกในแง่ดี จบลงอย่างมีความสุข อย่างเช่น คิมและพาย ที่สุดท้ายเขาทั้งสองคนก็ยอมรับกันและกันจนทั้งคู่เกิดความรู้สึกรักกัน
5. ฉาก (Setting)
– คือ ชุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นโดยปราศจากสถานที่ไม่ได้ ฉากมีความสำคัญในการบ่งบอกความหมายของเรื่อง เช่น ฉากมหาวิทยาลัย สื่อความหมายให้เห็นว่าคิมและพายกำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว
6. สัญลักษณ์พิเศษ (Symbol)
– สัญลักษณ์ทางภาพ : คือ องค์ประกอบที่ถูกนำเสนอ เช่น ภาพกราฟฟิคผีเสื้อตอนพายรู้สึกดีกับคิมครั้งแรก เป็นสัญลักษณ์พิเศษที่สื่อให้เห็นว่าพายมีรักครั้งแรกกับคิม เพราะพายมีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีผีเสื้อบินเต็มท้อง เป็นความรู้สึกหวิวๆ ที่พายคิดว่ามันคือ ความรัก
7. มุมมองในการเล่าเรื่อง (Point of view)
-ผู้รู้รอบด้าน : คือ การเล่าเรื่องที่ไม่มีข้อจำกัด เข้าถึงความรู้สึกของตัวละครทุกตัวในเรื่อง เช่นเดียวกับในเรื่องนี้ที่เข้าถึงความรู้สึกของคิม ที่แอบชอบพาย , ความรู้สึกของพาย ที่ไม่กล้ายอมรับว่ารู้สึกดีกับคิม และความรู้สึกเจน ที่แอบชอบแฟนของเพื่อน
The post Yes or No อยากรักก็รักเลย เพราะเลส ทอม ดี้ ก็มีหัวใจ appeared first on SPORTS.
This post first appeared on Local Online Marketing - Generating Visitors, Lead, please read the originial post: here