Get Even More Visitors To Your Blog, Upgrade To A Business Listing >>

วิธีการเลือกคาร์ซีท? Car Seat มีกี่แบบ? ในปี 2022

Tags: agravesup

อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า คาร์ซีทคืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกของคุณระหว่างเดินทางด้วยรถยนต์ การจะเลือกใช้คาร์ซีทประเภทไหนขึ้นอยู่กับอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักของเด็ก รวมถึงความยากง่ายในการติดตั้งเข้ากับเบาะรถว่าสำคัญขนาดไหนด้วย

การให้เด็กนั่งในคาร์ซีททุกครั้งที่เดินทางด้วยรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย ดังนั้นคุณควรเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสมกับวัยและน้ำหนักของเด็ก รวมไปถึงใช้งานได้ง่ายกับรถของคุณ เพื่อไม่ให้มีข้ออ้างในการไม่ใช้มัน และที่สำคัญอย่าลืมเช็คทั้งคู่มือรถยนต์และคู่มือการใช้งานคาร์ซีทเพื่อให้ติดตั้งและใช้งานได้อย่างถูกต้อง

วันนี้เราเลยมาแนะนำคาร์ซีทหลากหลายชนิดให้คุณรู้จัก เพื่ออธิบายคุณลักษณะเด่นของแต่ละประเภท และช่วยให้คุณตัดสินใจว่าคาร์ซีทตัวไหนที่เหมาะสำหรับครอบครัวคุณที่สุดได้ง่ายขึ้น

  • คลิกเพื่อดู คาร์ซีทที่ดีที่สุด ที่วางจำหน่ายแล้วในปีนี้
  • ทำความรู้จัก คาร์ซีทแบบ i-Size ผ่านคู่มือของเรา
  • ขจัดทุกข้อสงสัยเรื่อง กลุ่มน้ำหนักของคาร์ซีท
  • พบกับคาร์ซีทที่ดีที่สุดราคาไม่เกิน 5,000 บาท ที่จะซื้อในปีนี้

คาร์ซีทสำหรับทารก

คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ

คาร์ซีทสำหรับทารกถูกออกแบบมาสำหรับทารกโดยเฉพาะ นั่นแปลว่าคุณสามารถให้ลูกคุณใช้งานคาร์ซีทชนิดนี้ได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 2 ขวบ หรือจนกว่าจะถึงน้ำหนักที่ทางบริษัทผู้ผลิตเขียนกำหนดไว้ ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนไปใช้คาร์ซีทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งคาร์ซีทสำหรับทารกจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบหันหน้าเข้าหาเบาะหลังของรถยนต์เท่านั้น

คาร์ซีทสำหรับทารกบางตัวอาจจะสามารถใช้งานเป็นกระเช้าหิ้วได้ด้วยเช่นกัน

(เราแนะนำไม่ให้คุณวางคาร์ซีทเข้ากับรถเข็นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ต่อให้มันจะวางได้พอดีก็ตาม เพราะคาร์ซีทไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานกับรถเข็นซูเปอร์ และอาจทำให้เกิดอันตรายได้ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้เป้อุ้มหรือกระเช้าประเภทอื่นแทนจะดีกว่า)

คาร์ซีทสำหรับทารกหลาย ๆ รุ่นสามารถติดตั้งได้กับทั้งเบาะรถโดยตรง หรือไม่ก็ติดเข้ากับฐานรองที่ยึดติดไว้กับเบาะอยู่แล้ว ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อฐานรองเพิ่มเพื่อเพิ่มความสะดวก หากคุณมีรถหลายคัน

โดยปกติแล้วคาร์ซีทสำหรับทารกจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ไปจนถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่ว่าลูกคุณโตเร็วแค่ไหน และขนาดของคาร์ซีทที่ซื้อมาใหญ่ขนาดไหน เป็นเรื่องปกติที่ทารกบางคนจะโตเร็วจนเกินขนาดของคาร์ซีทได้ไวกว่าคนอื่น ดังนั้นเมื่อลูกคุณมีน้ำหนักหรือส่วนสูงมากเกินกว่าจะใช้คาร์ซีทประเภทนี้ได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนไปใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่โตขึ้นหรือเด็กวัยหัดเดิน

แม้คุณจะเปลี่ยนมาใช้คาร์ซีทใหม่ ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องเปลี่ยนมาใช้งานคาร์ซีทแบบหันหลังให้กับเบาะในทันที เรายังแนะนำให้คุณติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกคุณ

อย่างที่สำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงประจำสหรัฐอเมริกา (NHTSA) แนะนำให้ผู้ปกครองติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะให้กับลูกไปจนถึงอายุ 3 ขวบ หรือจนกว่าที่น้ำหนักและส่วนสูงจะเกินกว่าที่บริษัทผลิตคาร์ซีทกำหนดไว้

เช่นเดียวกันกับสินค้าประเภทอื่น ๆ คาร์ซีทก็มีวันหมดอายุเช่นกัน อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุของคาร์ซีททุกครั้งก่อนเริ่มต้นใช้งาน โดยเฉพาะถ้าคุณใช้คาร์ซีทมือสอง หรือใช้ต่อจากลูกคนก่อน

คาร์ซีทแบบพับได้

มีทั้งแบบหันหน้าและหันหลังเข้าหาเบาะ

คาร์ซีทแบบพับได้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนกว่าลูกคุณจะตัวโตเกินขนาดของคาร์ซีท นั่นแปลว่าคุณจะได้ใช้งานคาร์ซีทชนิดนี้แบบคุ้มเงินทุกบาททุกสตางค์ คาร์ซีทประเภทนี้สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบหันหน้าและหันหลังเข้าหาเบาะ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของลูกคุณ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้งานแบบหันหน้าเข้าหาเบาะไปจนลูกคุณอายุ 3 ขวบ ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนไปใช้งานแบบหันหลังให้เบาะ

ข้อเสียของคาร์ซีทแบบพับได้ คือมันไม่สามารถพกพาหรือปรับใช้เป็นกระเช้าหิ้วได้และยังไม่มีฐานรองอีกด้วย ทำให้ไม่สะดวกต่อการเปลี่ยนไปใช้งานบนรถยนต์คันอื่น ๆ อีกทั้งผู้ปกครองหลาย ๆ คนบ่นว่าคาร์ซีทชนิดนี้มีขนาดใหญ่ใช้งานกับทารกที่ตัวเล็ก ๆ ลำบากอยู่บ้าง ต่อให้ความใหญ่และหนาของมันจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ดีก็ตาม

คุณสามารถใช้งานคาร์ซีทแบบพับได้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าที่ลูกของคุณจะตัวโตเกินขนาดของคาร์ซีท เมื่อไรที่หูของลูกคุณแตะส่วนบนของคาร์ซีท หรือไหล่เลยเหนือช่องด้านบนแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเปลี่ยนไปใช้คาร์ซีทแบบผสมหรือแบบเบาะนั่งเสริม

คาร์ซีทแบบ 3 in 1

มีทั้งแบบหันหน้าและหันหลังเข้าหาเบาะ

ที่คาร์ซีทประเภทนี้ถูกเรียกว่า 3 in 1 ก็เพราะมันสามารถใช้งานได้ทั้งแบบ

  1. หันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์
  2. หันหลังให้เบาะรถยนต์ พร้อมสายเข็มขัด
  3. แบบเบาะนั่งเสริม

คุณสามารถเริ่มใช้งานแบบหันหลังให้เบาะรถยนต์ พร้อมกับใช้สายเข็มขัดนิรภัย เมื่อลูกของคุณมีน้ำหนักและส่วนสูงเกินกว่าจะใช้งานแบบหันหน้าเข้าหาเบาะได้ ตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตคาร์ซีท

คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริม (Booster Seat)

คาร์ซีทแบบหันหลังให้เบาะ

เมื่อลูกคุณตัวโตเกินกว่าจะนั่งคาร์ซีทที่ใช้สายรัดคาดไหล่แล้ว ก็ถึงเวลาเปลี่ยนไปนั่งคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมที่ใช้สายรัดแบบเข็มขัดแทน ซึ่งคุณควรให้ความสำคัญกับการใช้คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมเป็นอย่างยิ่ง เพราะเข็มขัดนิรภัยที่มากับรถยนต์ไม่ได้มีความยาวและการใช้งานที่เหมาะสมกับขนาดตัวของเด็ก ๆ ที่สูงไม่ถึง 145 เซนติเมตร และถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นในขณะที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูกต้องและพอดีกับตัวเด็ก อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการบาดเจ็บที่รุนแรงได้

โดยส่วนใหญ่เมื่อเด็กอายุน้อย ๆ นั่งบนเบาะรถยนต์ เข่าของพวกเขาจะแตะไม่ถึงขอบเบาะ ทำให้นั่งไม่สะดวกและก้มตัวลำบาก เราเลยมักจะเห็นเด็ก ๆ นั่งตัวงอหรือโน้มตัวไปข้างหน้า ทำให้สายเข็มขัดนิรภัยที่ควรจะอยู่บนบริเวณตักร่นขึ้นมาอยู่เหนือเอวซึ่งไม่ปลอดภัยเลย ดังนั้นการใช้คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะมันช่วยทำให้เด็ก ๆ นั่งสบายขึ้น ส่วนผู้ปกครองก็หมดความกังวลใจเรื่องสายรัดนิรภัยไปด้วย เพราะสายคาดไหล่จะไม่เลื่อนหลุดออกจากกลางอกทำให้ไม่โดนหน้าเด็ก รวมไปถึงมีสายเข็มขัดที่กระชับเข้ากับบริเวณต้นขาเป็นอย่างดี

คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมที่หาซื้อได้ทั่วไปส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาสำหรับเด็กที่น้ำหนักประมาณ 18 – 54 กิโลกรัม เราไม่แนะนำให้คุณใช้คาร์ซีทชนิดนี้กับเด็กที่ยังตัวไม่โตเกินคาร์ซีทแบบหันหลังให้เบาะที่มาพร้อมกับสายคาด

บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าลูกคุณพร้อมใช้คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมตั้งแต่อายุประมาณ 2 – 3 ขวบ หรือเพราะเด็กเล็กจำเป็นต้องใช้คาร์ซีทแบบพับได้

แต่ให้จำไว้ว่า เด็กอายุเท่านี้ยังมีขนาดตัวที่ไม่ใหญ่และยังไม่แข็งแรงพอจะรับแรงกระแทกจากอุบัติเหตุได้โดยที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริม เชื่อเราเถอะว่าเรื่องความปลอดภัยควรมาเป็นอันดับหนึ่ง

คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมไร้พนักพิง

สามารถใช้ได้กับเด็กที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 18 กิโลกรัม โดยเด็กที่เริ่มโตขึ้นอาจจะชอบนั่งคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง แต่ผู้ปกครองต้องตรวจดูให้แน่ใจว่าเด็กรัดเข็มขัดหรือสายคาดไหล่ทุกครั้งที่นั่งบนเบาะนั่งเสริมนี้ขณะเดินทางด้วยรถยนต์ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บบริเวณหน้าอกและสะโพก อย่าใช้เฉพาะสายเข็มขัดเวลาที่นั่งบนคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมโดยเด็ดขาด

คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมพร้อมพนักพิงหลังแบบสูง

คาร์ซีทชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้กับรถเก๋งหรือรถ 2 ประตูที่เบาะหลังมีพนักพิงศีรษะแบบเตี้ย และเหมาะสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักและส่วนสูงมากพอที่จะนั่งคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมได้แล้ว แต่อาจจะยังต้องการการป้องกันเพิ่มเติมบริเวณด้านบนหัวและด้านข้าง โดยพนักพิงหลังที่มาพร้อมกับคาร์ซีทชนิดนี้สามารถถอดออกได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน และเพื่อความปลอดภัยสูงสุด เด็ก ๆ ต้องใช้ทั้งสายคาดไหล่และสายเข็มขัดทุกครั้งที่นั่งบนคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บบริเวณหน้าอกและสะโพก อย่าใช้เฉพาะสายเข็มขัดเวลาที่นั่งบนคาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมโดยเด็ดขาด

คาร์ซีทที่มาพร้อมกับรถ

คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ

รถยนต์และรถตู้บางรุ่นจะมาพร้อมกับคาร์ซีทที่ผลิตมาจากโรงงานเลย ซึ่งคาร์ซีทเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นเบาะนั่งเสริมแบบมีเข็มขัดหรือแบบสายคาดอกล็อก 5 จุดได้ และใช้งานง่ายทั้ง 2 แบบ แต่ไม่ควรให้เด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ ใช้งาน โดยคาร์ซีทที่มาพร้อมกับรถจะใช้งานได้แบบหันหน้าเข้าหาเบาะเท่านั้น

The post วิธีการเลือกคาร์ซีท? Car Seat มีกี่แบบ? ในปี 2022 appeared first on Pro Review.



This post first appeared on Pro Review, please read the originial post: here

Share the post

วิธีการเลือกคาร์ซีท? Car Seat มีกี่แบบ? ในปี 2022

×

Subscribe to Pro Review

Get updates delivered right to your inbox!

Thank you for your subscription

×