Get Even More Visitors To Your Blog, Upgrade To A Business Listing >>

รีวิว Apple Watch 7 – สมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานได้ดีที่สุดในขณะนี้

Tags: apple

หน้าสารบัญ

คุณเห็นภาพชัดเต็มจอเต็มตาแล้วหรือยัง?

การใช้งาน Apple Watch อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ iPhone นั้นเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำได้เมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่ด้วยขอบที่บางลงและหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ Apple Watch 7 เป็นสมาร์ตวอทช์ที่ใช้งานแยกกับอุปกรณ์อื่นได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

สมาร์ตวอทช์รุ่นล่าสุดของ Apple รุ่นนี้ สเป็กส่วนใหญ่เป็นการอัพเกรดเพิ่มเติมขึ้นมาจาก Apple Watch 6 โดยคงแบตเตอรี่ไว้ให้ใช้ได้นานถึง 18 ชั่วโมง ใช้ CPU ตัวเดิม ไม่มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพใหม่ ๆ เข้ามา แต่ Apple เลือกใช้ไม้ตายเป็นการให้จอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้นมาก จนทำให้ใครที่ได้ลองใช้รุ่นนี้แล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนกลับไปใช้ Apple Watch รุ่นก่อนหน้านี้ได้ หน้าจอขนาดใหญ่ของ Series 7 นี้ผ่านการปรับการประมวลผลเพื่อให้สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันมากขึ้น ได้ประโยชน์สูงสุดส่งตรงจากข้อมือคุณ

รุ่นนี้มีคีย์บอร์ดคิวเวอตี้แบบเต็มมาให้ใช้ มีปุ่มเครื่องคิดเลขที่ใหญ่ขึ้น มีโหมดไฟติดตลอดเวลา (Always On) ที่สว่างขึ้นกว่าเดิม พร้อมดีไซน์หน้าปัดนาฬิกาที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะรุ่นนี้ นอกจากนี้ Apple Watch 7 ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ watchOS 8 ที่ปรับแต่งมาเพื่อ Apple Watch 7 โดยเฉพาะ จึงต่างจาก watchOS 8 ที่ใช้ใน Apple Watch SE และ Apple Watch 3 ที่กำลังลดราคาอยู่ในตอนนี้ รองรับระบบชาร์จเร็ว ทนทานมากขึ้น พร้อมสีสันของเคสที่สวยงามอีกด้วย

ในการรีวิว Apple Watch 7 ที่คุณกำลังจะได้อ่านนี้ เราจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน Apple Watch 7 ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่จนทำให้มันได้ตำแหน่งสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดแห่งปีไปครอง

  • Apple Watch Series 7
  • #1

  • Samsung Galaxy Watch 4
  • #2

  • Fitbit Sense
  • #3

ราคาของ Apple Watch 7 และความพร้อมในการวางจำหน่าย

(ณ เวลาที่ปล่อยตัว)

Apple Watch 7 มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท สำหรับรุ่น 41 มม. และในราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท สำหรับรุ่น 45 มม. ส่วนรุ่นที่มี Cellular เพื่อให้ Apple Watch สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone มาในราคา 17,500 บาท สำหรับขนาด 41 มม. และในราคา 18,500 บาท สำหรับขนาด 45 มม. ตัวเรือนสแตนเลสสตีลราคาเริ่มต้นที่ 23,900 บาท และตัวเรือนไทเทเนียมราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท

รีวิว Apple Watch 7 – ด้านการดีไซน์

หน้าตาของ Apple Watch 7 ยังคงได้รับแรงบันดาลใจจาก Apple Watch 4 ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ดังนั้น หน้าตาของนาฬิการุ่นนี้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนมากนัก วงกลมโค้งมนที่เป็นสัญลักษณ์ของ Apple Watch ยังคงเด่นชัด แต่เราก็รับรู้ได้ว่า Apple ต้องการให้โดยรวมแล้วสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ต้องดูสวยงามนุ่มนวลกว่ารุ่นก่อน ๆ

อย่างแรกก็เพราะมุมทั้ง 4 ด้านของนาฬิกาที่โค้งมนกว่าเดิมเล็กน้อย หน้าจอแสดงผลสอดเข้าไปอยู่ใต้กรอบได้เนียนสนิทกว่าซีรีส์ 6 ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าเราจะไม่สังเกตเห็นความแตกต่างของทั้ง 2 ข้อนี้เลย ถ้าไม่ได้วาง Apple Watch 7 และ Apple Watch 6 เอาไว้ข้างกัน และถึงแม้ว่า Apple Watch 7 จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า (คือ 41 มม. และ 45 มม.) สมาร์ตวอทช์รุ่นนี้ก็ไม่ได้ดูใหญ่ขึ้นกว่า Apple Watch 6 สักเท่าไหร่เมื่อมองด้วยตาเปล่า

แต่เรื่องของสีสันจัดว่าแตกต่างจากเดิมมาก เพราะ Apple Watch 7 มาในสีใหม่ทั้งหมด รุ่นที่เราได้รีวิวเป็นรุ่นตัวเรือนสีเขียว ส่วนสีมิดไนท์เท่าที่เห็นออกจะเป็นสีดำเหลือบน้ำเงินเล็กน้อย สีสตาร์ไลท์เป็นส่วนผสมระหว่างสีเงินและทองที่ทำออกมาได้ลงตัวสวยงามมาก ดังนั้น เมื่อเทียบกับการที่ Apple ออกนาฬิกาสีน้ำเงินและสีแดงในปีก่อน สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้จัดว่ามีสีสันสดใสขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ถ้าคุณชอบตัวเรือนแบบโลหะมากกว่า เราแนะนำให้ซื้อตัวเรือนแบบสแตนเลสสตีลหรือแบบไทเทนียม เพียงแต่เรารู้สึกเฉย ๆ กับตัวเรือนโลหะ ดังนั้น ถ้าต้องเลือกสมาร์ทวอทช์จากวัสดุตัวเรือน เราแนะนำให้คุณเลือกจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันว่าวัสดุตัวเรือนแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากันจะดีกว่า

Apple Watch 7 มีระดับการกันน้ำเท่ากันกับรุ่นก่อน ๆ คือสูงสุดที่ 50 เมตร แต่เป็นครั้งแรกที่ได้รับการรับรอง IP6X ในการป้องกันฝุ่นละออง ก็หวังว่าจะกันฝุ่นได้จริง เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนเราเพิ่งใส่นาฬิกาไปนวดเส้นพาสต้ามา แล้วแป้งก็เกาะเต็มนาฬิกาไปหมดเลย และด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่เปลี่ยนแปลงไปของนาฬิการุ่นนี้ เราคิดว่าก็น่าจะทำให้มีความทนทานต่อการแตกร้าวมากขึ้นด้วย ทำให้ใส่เล่นกีฬาได้ปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย

รีวิว Apple Watch 7 – หน้าจอแสดงผล

หน้าจอรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่ายิ่งใหญ่ก็ยิ่งเต็มตา ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้ทำให้สมาร์ตวอทช์รุ่นนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้เหมือนเป็น iPhone ขนาดเล็กที่สามารถเอามาสวมไว้บนข้อมือของคุณมากขึ้นทุกที ซึ่งนั่นก็ดีมากเลย หน้าจอของ Apple Watch 7 มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า Apple Watch 6 เกือบ 20% และมีขนาดใหญ่กว่า Apple Watch 3 เกินกว่า 50% ในขณะที่ลดความบางลงกว่าเดิมถึง 40%

ดีไซน์หน้าจอโค้งมนแบบนี้ทำให้สามารถอ่านค่าต่าง ๆ บนหน้าจอได้ง่ายขึ้นแม้จะไม่ได้มองตรง ๆ ไปที่ตัวนาฬิกา นอกจากนี้ยังทำให้ขอบของ UI สามารถมองเห็นได้จากด้านข้างด้วย ส่วนมุมมองแบบเทลงมาเหมือนในวิดีโอโฆษณาเปิดตัว เราคิดว่ายังมองเห็นได้ไม่ชัดเหมือนในโฆษณาขนาดนั้น ในมุมมองนั้นจะเห็นได้ชัดถ้าคุณใช้ดีไซน์หน้าจอใหม่แบบ Contour เท่านั้น

นอกจากกรอบที่เล็กลงและหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแล้ว หน้าจอของ Apple Watch 7 ยังสว่างขึ้นถึง 70% ในโหมดไฟติดตลอดเวลา (Always On) นั้นทำให้คุณไม่เห็นความแตกต่างของหน้าจอในที่ร่มและกลางแดดอีกต่อไป ไม่เหมือนใน Apple Watch 5 และ Apple Watch 6 ซึ่งแปลว่าคุณจะเห็นหน้าจอของคุณได้ง่ายขึ้น แม้จะไม่ได้ยกข้อมือขึ้นมาดูเลยก็ตาม

รีวิว Apple Watch 7 – ะบบปฏิบัติการ watchOS 8

สำหรับแต่ก่อน ระบบปฏิบัติการ watchOS ของ Apple จะคล้ายกันในสมาร์ทวอทช์ทุกรุ่น ต่างกันก็แค่บางแอปพลิเคชันที่จำกัดให้ใช้ได้เฉพาะในบางรุ่นเท่านั้น โดย Apple Watch 7 ไม่ได้ใช้เซ็นเซอร์ใหม่ ดังนั้น Apple จึงต้องปรับแต่ง watchOS 8 ให้รองรับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น นอกจากฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การติดตามการนอนหลับ การติดตามประจำเดือน (นี่คือเหตุผลว่าทำไมสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ถึงเป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิง) การแจ้งเตือนปฏิทิน การแจ้งเตือนสภาพอากาศ และนอกจากจะมีแอปพลิเคชัน Find My app for Apple Watch แล้ว watchOS 8 ยังมีลูกเล่นพิเศษอีกหลายอย่างที่ทำมาเพื่อซีรีส์ 7 นี้ด้วย

เรื่องของ UI ส่วนใหญ่ก็คล้ายกันกับ UI ที่เราเคยได้ใช้กันมาหลายเดือนแล้ว เพียงแต่มีการปรับแต่งใหม่เพิ่มเติมอยู่บ้างที่บริเวณศูนย์ควบคุม แอปพลิเคชัน เครื่องคิดเลข ปุ่มใหญ่ขึ้นทุกปุ่ม แอปพลิเคชันหลายตัวถูกปรับให้มีแอนิเมชันที่ดูฉลาดขึ้น เช่น แอปพลิเคชัน HomeKit จาก UI ที่เปลี่ยนไปทั้งหมดนี้เราชอบ UI ของ Apple Maps ที่ใหญ่ขึ้นเป็นพิเศษ นั่นเพราะมันช่วยให้เราเห็นสถานที่ใกล้เคียงในแผนที่ได้ง่ายขึ้นมาก

อีกสิ่งที่ดีมากในรุ่นนี้ก็คือการมีคีย์บอร์ดคิวเวอตี้ (QWERY) เราอยากให้ Apple Watch มีคีย์บอร์ดแบบนี้มาตั้งหลายปีแล้ว ถึงกับเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วด้วยว่า Apple Watch 7 ควรจะไปขโมยคีย์บอร์ดนี้มาจาก Galaxy Watch 4 นะ พอรุ่นนี้ใช้คีย์บอร์ดคิวเวอตี้ด้วยจริง ๆ เราก็เลยตื่นเต้นมาก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราจะไม่กลับไปใช้ Apple Watch รุ่นเก่าอีก

พอใส่นาฬิกาปุ๊บ เราก็แทบจะอยากทดลองส่งข้อความออกจากนาฬิกาปั๊บ เราชอบพิมพ์โดยการลากและเลือกคำพูดแทนการแตะตัวอักษรทีละตัว แต่ไม่ว่าคุณจะถนัดการพิมพ์ในวิธีไหน คีย์บอร์ดนี้ก็ยังใช้งานได้ดี

เราพูดถึงดีไซน์หน้าปัดแบบ Contour ไปเล็กน้อยแล้วก่อนหน้านี้ มองโดยรวมดีไซน์ Contour ดูเฉียบคมดี แต่ต้องบอกตามตรงว่าอ่านยากพอสมควร เราเลยชอบหน้าปัดแบบ Modular Duo มากกว่า หน้าจอแบบนี้ทำให้คุณสามารถวาง 2 ฟังก์ชันไว้บนจอเดียวกัน นั่นคือนาฬิกาแนวตั้งและนาฬิกาโลก ซึ่งเป็นการดีไซน์หน้าจอที่เหมาะสมกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนี้มาก แม้ว่าจะผิดหวังเล็กน้อยที่เราได้เห็น Galaxy Watch 4 เปิดตัวมาพร้อมกับหน้าจอที่สามารถทำงานร่วมกันได้แล้ว เราก็หวังว่า Apple Watch 7 จะมีฟีเจอร์นี้มาให้ด้วย แต่ถึงจะไม่มี เราก็ยังพอใจกับคลังหน้าปัดนาฬิกาที่รุ่นนี้ให้มาแล้ว

รีวิว Apple Watch 7 – ฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย

ส่วนตัวเราคิดว่ามันแปลกมากเลยที่ Apple Watch 7 ไม่ได้อัพเกรดฟีเจอร์ด้านสุขภาพใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเลย โดยเฉพาะในยุคที่คนกำลังเป็นห่วงเรื่องสุขภาพอย่างทุกวันนี้ คู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy Watch 4 ก็เลือกเพิ่มฟีเจอร์การวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายมาให้ ส่วนนาฬิกา Fitbit รุ่นที่ดีที่สุดก็ยังให้ฟีเจอร์ด้านสุขภาพหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการมาอย่างครบถ้วน การที่ Apple ไม่ยอมเพิ่มฟีเจอร์



This post first appeared on Pro Review, please read the originial post: here

Share the post

รีวิว Apple Watch 7 – สมาร์ทวอทช์ที่ใช้งานได้ดีที่สุดในขณะนี้

×

Subscribe to Pro Review

Get updates delivered right to your inbox!

Thank you for your subscription

×