Get Even More Visitors To Your Blog, Upgrade To A Business Listing >>

รีวิว 3 เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นไหนดี ปี 2021

หน้าสารบัญ

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ดี อาจทำได้จากการอ่านรีวิวแนะนำ เปรียบเทียบคุณสมบัติของแต่ละรุ่นกับความต้องการในการใช้งาน หรือเลือกศึกษาจากแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูง และมีชื่อเสียงยาวนาน เพราะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม และสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย เราจึงอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับเครื่องฟอกอากาศ Philips ที่เราคัดเลือกมาว่าเป็นรุ่นที่ดีที่สุดของปี 2020 ค่ะ

เกี่ยวกับบริษัท

Philips หรือ ฟิลิปส์ เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย พร้อมการันตีเรื่องประสิทธิภาพและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ต้นกำเนิดของธุรกิจนี้มาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มีผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทเป็นหลอดไฟ ปัจจุบันมี 3 หน่วยบริหารที่ดูแลเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า การดูแลสุขภาพ และระบบเทคโนโลยีทางการแพทย์

เครื่องฟอกอากาศ Philips ที่ดีที่สุด 3 รุ่นที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ ได้แก่ รุ่น ac1215 หรับห้องขนาดกลาง มีแผ่นกรองอากาศชนิดพิเศษ, รุ่น ac2887 ที่มีเซนเซอร์ตรวจสภาพอากาศใช้เทคโนโลยีสุดล้ำ และรุ่น ac3259 สำหรับห้องขนาดใหญ่ ลองมาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง และจะมีรุ่นไหนที่เหมาะกับความต้องการและจุดประสงค์การใช้งานของคุณมากที่สุด เป็น best air purifier ค่ะ

รีวิว 3 อันดับ เครื่องฟอกอากาศ Philips ที่ใช้ดี

เมื่อได้อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท Philips และทำความรู้จักกับชื่อรุ่นเครื่องฟอกอากาศที่เราอยากแนะนำให้คุณแล้ว ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละรุ่นได้เลยค่ะ

1. Philips Air Purifier AC1215

เหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 63 ตารางเมตร

  • ขนาด  54.1 x 32.5 x 21.1 เซนติเมตร
  • กำลังไฟที่ใช้ 50 วัตต์
  • ระดับเสียง 33 เดซิเบล
  • ระดับความแรงลม 3 ระดับ

ประเภทแผ่นกรองอากาศที่ใช้

  • แผ่นกรอง NanoProtect HEPA

มอบอากาศที่ดีต่อสุขภาพด้วยแผ่นกรอง NanoProtect HEPA มีความหนาพิเศษ ช่วยปกป้องรอบด้าน ออกแบบมาประสิทธิภาพการฟอกอากาศบริสุทธิ์ และอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในระบบ Vitashield IPS และแผ่นกรอง NanoProtect Pro เพิ่มปริมาณอากาศบริสุทธิ์สูงขึ้นถึง 270 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ขจัดมลพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สุด 0.02 ไมครอนได้อัตโนมัติ สำหรับพื้นที่ที่มีมลพิษฝุ่น PM 2.5 มากเป็นพิเศษ ก็สามารถใช้งานได้ดีด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับมลพิษอัจฉริยะ ช่วยเร่งความเร็วการฟอกอากาศได้โดยอัตโนมัติและปลอดภัย ปรับระบบให้ทำงานให้เงียบ พร้อมหรี่แสงไฟลง และตรวจระดับคุณภาพอากาศต่อเนื่องในขณะที่คุณนอนหลับกับโหมด NightSense ได้รับการรับรองคุณภาพหรือผ่านการทดสอบโดย ECARF และ Airmid

สรุปคุณสมบัติพิเศษ

  • ฟอกอากาศเพิ่มปริมาณอากาศบริสุทธิ์สูงได้ถึง 270 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
  • มีระบบแจ้งเตือนสำหรับการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเมื่อถึงเวลา
  • แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์บนจอแสดงผลที่ใช้งานได้ง่าย

2. Philips AC2887

เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ พื้นที่ไม่เกิน 79 ตารางเมตร

  • ขนาด  35.9 x 24.0 x 55.8 เซนติเมตร
  • กำลังไฟที่ใช้ 11-60 วัตต์
  • ระดับเสียง 20-51 เดซิเบล
  • ระดับความแรงลม 3 ระดับ

วิธีฟอกอากาศที่ใช้

  • เทคโนโลยี AeraSense และ VitaShield ป้องกันและดักจับฝุ่น

สำหรับผู้อ่านที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศมาเป็นอันดับแรก และต้องการเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เราอยากแนะนำเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ให้กับคุณ เพราะมี AeraSense ที่เป็นเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศสูตรเฉพาะของ Philips ช่วยตรวจจับและแสดงค่าระดับฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์ เป็นตัวเลขและวงแหวนสี 4 ขั้นตอน มีโหมดการใช้งานทั้งหมด 3 โหมด คุณสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งตอนกลางวัน หรือจะปรับระดับเสียงให้เบาลงไร้การรบกวนในตอนกลางคืน พร้อมกับลดความเร็วพัดลมและปิดไฟแสดงผลบนเครื่องเพื่อการนอนหลับที่เต็มอิ่ม แสงไฟสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการได้ด้วยระบบควบคุมอัจฉริยะ พิเศษสุดคือ เทคโนโลยี VitaShield ขจัดฝุ่นละออง ที่เล็กที่สุดเพียง 0.02 ไมครอน ด้วยระบบกรองอากาศอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกำจัดก๊าซอันตราย สารก่อภูมิแพ้ ไวรัส และแบคทีเรียได้สูงถึงร้อยละ 99.97 ให้คุณไว้วางใจกับความปลอดภัยและสุขภาพที่แข็งแรง

สรุปคุณสมบัติพิเศษ

  • มีเซนเซอร์ตรวจคุณภาพอากาศ AeraSense สูตรเฉพาะของ Philips
  • เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางและขนาดใหญ่ไม่เกิน 79 ตารางเมตร
  • ควบคุมแสงไฟได้ตามต้องการด้วยตัวควบคุมอัจฉริยะ

 

3. Philips AC3259/20

เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ พื้นที่ไม่เกิน 95 ตารางเมตร

  • ขนาด  36.6 x 25.1 x 69.8 เซนติเมตร
  • น้ำหนัก 11 กิโลกรัม
  • กำลังไฟ 11 – 60 วัตต์
  • ระดับความแรงลม 3 ระดับ

แผ่นกรองอากาศ

  • เทคโนโลยี VitaShield และแผ่นกรองอากาศ NanoProtect ความหนาพิเศษ

ตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ผ่านการควบคุมใช้งานด้วยแอปพลิเคชัน แสดงระดับดัชนีสารก่อภูมิแพ้ในร่มด้วยเซนเซอร์ AeraSense ผ่านจอแสดงผลตัวเลขระดับสารก่อภูมิแพ้ที่พบ และวงแหวนสีแสดงคุณภาพอากาศเครื่องฟอกอากาศ มีโหมดพิเศษสำหรับการป้องกันสารก่อภูมิแพ้อัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขจัดสารก่อภูมิแพ้ในบ้านของคุณให้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยสำหรับสมาชิกในครอบครัวทุกวัย ปรับความแรงลมและระดับการกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ทันทีที่ตัวเครื่องตรวจจับความผิดปกติของคุณภาพอากาศ ควบคุมการทำงานในทุกขั้นตอนได้ทั้งการเปิดปิด ปรับตั้งค่าความแรงลม ผ่านแอปพลิเคชัน Air Matters มั่นใจกับอากาศบริสุทธิ์สดชื่น ผ่านแผ่นกรอง Vitashield IPS และแผ่นกรอง NanoProtect ที่มีความหนาพิเศษ

สรุปคุณสมบัติพิเศษ

  • มีโหมดการทำงานพิเศษเร่งการขจัดสารก่อภูมิแพ้โดยเฉพาะ
  • เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ไม่เกิน 96  ตารางเมตร
  • สามารถควบคุมการทำงานได้จากแอปพลิเคชัน Air Matters

 

 

วิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศ Philips ที่เหมาะกับคุณ

ถ้าคุณลองศึกษาข้อมูลของเครื่องฟอกอากาศ Philips ทั้ง 3 รุ่นแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกรุ่นไหนมาใช้ดี ลองอ่านคำแนะนำของเราเพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยค่ะ

เลือกจากขนาดห้อง

เครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นสามารถทำงานได้ในพื้นที่คนละขนาด บางรุ่นเหมาะสำหรับห้องเล็ก ในขณะที่รุ่นอื่นเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จึงควรพิจารณาขนาดห้องที่สามารถใช้ได้เป็นลำดับต้น ๆ ประกอบการตัดสินใจของคุณ เพื่อให้ได้อากาศสดชื่นทั่วทุกพื้นที่การใช้งาน และยังประหยัดพลังงานอีกด้วยค่ะ

เลือกจากโหมดการทำงานที่สนใจ

หากคุณต้องการใช้งานนอกเหนือจากการฟอกอากาศโดยทั่วไป การศึกษาข้อมูลโหมดการทำงานและคุณสมบัติพิเศษแต่ละรุ่นก็เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการตัดสินใจ โดยเริ่มต้นจากการพิจารณาจุดประสงค์และความต้องการเฉพาะของคุณ เช่น ต้องการใช้งานในบ้านที่มีเด็กเล็กหรือมีผู้สูงอายุ ต้องการฟอกอากาศทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่อยากให้มีเสียงดังรบกวน หรือต้องการลดอาการภูมิแพ้ เป็นต้น เมื่อระบุความต้องการได้ชัดเจนแล้ว จึงนำข้อมูลนี้มาเปรียบเทียบกับคุณสมบัติพิเศษของแต่ละรุ่น โดยอ่านได้จากสรุปคุณสมบัติพิเศษที่เราแนะนำให้ค่ะ

เลือกจากงบประมาณ

ลองเปรียบเทียบราคาของเครื่องฟอกอากาศแต่ละแบรนด์ในท้องตลาด กับคุณสมบัติที่คุณจะได้รับ คุณจะเห็นว่า ในบประมาณเดียวกันมีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกมากมาย หากคุณไม่ได้ต้องการฟังก์ชันพิเศษอะไรในการใช้งาน เราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีงบประมาณที่คุณสบายใจที่จะจ่ายที่สุด และถ้าหากคุณต้องการลงทุนกับเครื่องฟอกอากาศดี ๆ ก็ลองดูจากคุณสมบัติที่ครบถ้วนที่สุด แล้วตัดสินใจซื้อค่ะ

บทส่งท้าย

เมื่อได้ทำความรู้จักกับเครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier และวิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับความต้องการของคุณแล้ว เราหวังว่าคุณจะได้เครื่องฟอกอากาศที่ถูกใจนะคะ คุณสามารถซื้อจากออนไลน์ได้เลย หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเพื่อทบทวนความต้องการและตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องที่คุ้มค่าที่สุด

สิ่งสำคัญในการใช้เครื่องฟอกอากาศ คือการทำความสะอาดและดูแลรักษา แผ่นกรองอากาศแต่ละรุ่นมีอายุการใช้งานแตกต่างกัน คุณจึงควรตรวจสอบสภาพการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ และทำความสะอาด รวมถึงเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศเมื่อถึงเวลาด้วยค่ะ

The post รีวิว 3 เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นไหนดี ปี 2021 appeared first on Pro Review.



This post first appeared on Pro Review, please read the originial post: here

Share the post

รีวิว 3 เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นไหนดี ปี 2021

×

Subscribe to Pro Review

Get updates delivered right to your inbox!

Thank you for your subscription

×