เชลซี กำลังแสดงความสนใจในการเซ็นสัญญา ดีแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ตัวนักเตะจะถูกปล่อยออกจากทีมเมื่อตอนที่อายุ 14 ปี ในปี 2013 โดยนักเตะได้ย้ายมาร่วมทีมคู่แข่งในกรุงลอนดอน ก่อนที่จะได้รับโอกาสลงสนาม และแจ้งเกิดในช่วงที่ผ่านมา และเป็นกำลังสำคัญหลักให้กับทีมในเวลานี้ และนับว่าเป็นความผิดพลาดของเชลซีหรือไม่?

เชลซีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องของทีมแมวมอง, โค้ช และเหล่าดาวรุ่งพรสวรรค์ของทีมที่ถูกสร้างออกมาและกลายเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของหลายทีมในยุโรป ซึ่งมากกว่าทีมอื่นๆ ในเกาะอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด แต่ไรซ์ในวัย 14 ปี กลับทำได้ไม่ดีพอที่จะอยู่ในอะคาเดมี่ต่อไป ทำให้ถูกปล่อยออกจากทีม

เวสต์แฮมฯ เป็นทีมที่ดึงตัวไรซ์ไปร่วมทีม และมอบโอกาสในการลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2016-17 ก่อนที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญหลักให้กับทีมในกรุงลอนดอน และลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ โดยปัจจุบันอายุ 21 ปี และเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของพรีเมียร์ลีก

ไมเคิ่ล บีล อดีตโค้ชอะคาเดมี่ของเชลซี รู้สึกไรซ์เป็นอย่างดีจากช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสร แต่ตัวเขาก็เลือกย้ายไปยังลิเวอร์พูลในตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม ก่อนที่จะกล่าวถึงการย้ายทีมของนักเตะ

บีล กล่าวกับโกล ว่า “ผมรู้สึกผิดหวัง ในกรณีของดีแคลน ไรซ์ เขาต้องการเวลา เขาต้องการเติบโตเหมือนกับที่เขาเป็นในตอนนี้ เขาเป็นเด็กที่คล่องตัวมาก กับคาแร็คเตอร์ของเขา เขาเป็นเด็กดีและเขาก็มุ่งมั่นมากๆ เขายังมีเทคนิคที่ดี เขาเป็นเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ และเติบโตขึ้นมาท่ามกลางนักเตะที่ตัวใหญ่กว่า แต่ผมไม่เคยเห็นใครสร้างความลำบากให้กับเขาได้เลย”

“นั่นอาจจะเป็นเพราะผมสนิทกับเขา และผมต้องการให้เขาทำได้ดี ผมคิดว่า มันเป็นเพราะว่า เขาต้องการเวลาในการเติบโต แต่บางทีเขาอาจจะต้องการย้ายออกจากเชลซีเพื่อไปยังสโมสรอื่น กับการเดิมทางที่ชัดเจนของเขาในการเข้าไปสู่ทีมชุดใหญ่ นั่นคือสิ่งที่เขาได้รับกับเวสต์แฮมฯ”

การเซ็นสัญญากับไรซ์อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเชลซี เมื่อเวสต์แฮมฯ ยืนกรานถึงการเก็บนักเตะให้อยู่ในถิ่นลอนดอน สเตเดี้ยมต่อไป ยิ่งท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้หลายสโมสรได้รับผลกระทบทางด้านการเงิน เมื่อไม่มีเกมการแข่งขัน ในขณะที่แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ยังมีทางเลือกในแดนกลางหลายคน ทำให้อาจจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับการทีมของนักเตะ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้เช่นเดียว หากโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซียอมอนุมัติทุ่มเงินเพื่อคว้าลายเซ็นของนักเตะ