ส่วนลิเวอร์พูลพวกเขายังคงใช้นักเตะชุดเดิมกับเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะพลาดลงสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บ

เข้าสู่เกมเพียง 25 นาที เคอร์ติส โจนส์ จ่ายบอลหนักใส่ อีฟ บิสซูม่า กรรมการตรวจสอบ VAR แล้วตัดสินใจให้ใบแดงให้ลิเวอร์พูลเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน

นาทีที่ 37 สเปอร์ส ได้ประตูจากจังหวะที่ เจมส์ แมดดิสัน แทงบอลทะลุช่องให้ ริชาร์ลิสัน บุกเข้าไปตรงกลางแล้วเข้ามาให้ ซน ฮึง-มิน พุ่งบอล นำทีมขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 45+4 โดมินิก โซบอสไล เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค โหม่งกลับมาให้ โคดี้ กักโป เลี้ยวมายิงด้วยขวาแล้วบอลทะยานเข้าตาข่ายทำให้ ลิเวอร์พูล ตีเสมอที่ 1.-1 กลับมาได้สำเร็จ เกม. ก่อนหมดเวลาในครึ่งแรก

ครึ่งหลังของเกม ลิเวอร์พูล ลงสนามแทน ดิโอโก้ โชต้า แต่ลงสนามได้เพียง 25 นาที เพราะผู้ตัดสินให้ใบเหลืองใบที่สองแล้วก็ใบแดง ด้วยการฟาวล์สองครั้งต่อ Destiny Udoghi ทำให้ Liverpool เหลือผู้เล่นเก้าคน

นาทีที่ 90+6 สเปอร์สได้ประตูในช่วงท้ายเกมตั้งแต่จังหวะที่เปโดร ปอร์โร เปิดบอลยัดเข้าไป และ โจเอล มาติป สกัดบอลเข้าประตูตัวเอง ทำให้ทีมตามหลังสเปอร์ส 2-1

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ : กูเจลโม วิคาริโอ (จีเค), เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิกกี้ ฟาน เดอร์ เวน, เดสตินี อูโดกี้, ปา. พี ซาร์, อีฟ บิสซูม่า, เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, ซน ฮึง-มิน, ริชาร์ลิซอน

ลิเวอร์พูล : อลิสสัน เบ็คเกอร์ (จีเค), โจ โกเมซ, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจเอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โดมินิค โซบอสไล อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์, หลุยส์ ดิแอซ, โคดี้ กักโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์