ในโลกใบนี้มีเทศกาลต่างๆ มากมาย แต่ละเทศกาลจัดขึ้นด้วยที่มาและสาเหตุที่แตกต่างกัน แน่นอนว่ารูปแบบของงานเทศกาลก็ต่างกันไปด้วย วันนี้ เราจะพาทุกคนไปเที่ยวดูเทศกาลที่ขึ้นชื่อว่าเป็น เทศกาลที่สวยที่สุดในโลก และถ้ามีโอกาส ก็ควรจะไปดูกับตาตัวเองสักครั้ง เพราะความสวยงามของเทศกาลที่เรานำมาฝากในวันนี้ คุ้มค่าการเดินทางแน่นอน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ: 20 เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนมากที่สุดในโลก, เที่ยวต่างประเทศคนเดียวได้ ไม่ต้องหงุดหงิดกับ ตม., 10 สุดยอดสถานที่ทางธรรมชาติ ที่ยังไม่ถูกการท่องเที่ยวของมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว!!

10. Scarlet Sails, White Nights Festival | Russia

ในช่วงพระอาทิตย์กลางคืนของเขตอาร์กติกซอร์เคิล ที่เมืองเซนส์ปีเปอร์สเบิร์ก ประเทศรัซเซียจะมีการเฉลิมฉลองเทศกาล White Night ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะนานาชาติประจำปี ที่มีทั้งการแข่งขันและความบันเทิงต่างๆ มากมาย จุดเด่นของงานนี้คือ Scarlet Sails ซึ่งจะมีเรือใบสีแดงสด ล่องผ่านแม่น้ำที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสวและการแสดงดอกไม้ไฟตระกาลตา เทศกาลนี้เริ่มต้นขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ที่มีเรือใบสีแดงเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงการสิ้นสุดของสงคราม

9. Electric Forest Festival | United States

เทศกาล Electric Forest เริ่มขึ้นเมื่อไม่ถึงทศวรรศที่ผ่านมานี้ในฐานะ Rothbury Festival มันเป็นเทศกาลที่จัดนาน 4 วันและเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยจะจัดขึ้นที่ JJ Resort ในเมืองร็อธเบอร์นี่ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา จุดเด่นของงานนี้อยู่ที่การแสดงคอนเสิร์ตของวงต่างๆ แต่สิ่งที่งดงามจับตาจริงๆ ก็คือบรรยากาศของเทศกาลในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะรายล้อมไปด้วยการแสดงแสงสีและเลเซอร์โชว์มากมาย

8. Winter Light Festival | Japan

เทศกาลไฟฤดูหนาวนี้จัดขึ้นที่เมืองคุวานะ ประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับเทศกาลอื่นๆ มากมายในส่วนอื่นของประเทศ งานแสดงไฟฤดูหนาวจัดขึ้นที่สวนพฤกษศาสตร์ของเมืองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเรื่อยไปจนถึงเดือนมีนาคมของอีกปี หลอดไฟ LED นับล้านดวงที่ได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันจะถูกเปิดขึ้นพร้อมกัน ทำให้เกิดแสงเปล่งประกายทั้งบนพื้นดินและผืนน้ำ โดยงานแสดงไฟนี้จะจัดขึ้นตามตีมต่างๆ ในแต่ละปี และมีไฮไลท์อยู่ที่อุโมงค์แห่งแสงไฟ

7. Up Helly Aa Fire Festival | Scotland

ที่เช็ธแลนด์ ประเทศสก็อตแลนด์ จะฉลองเทศกาลแห่งไฟในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าช่วง yule หรือเทศกาลคริสตมาสของชาวสก็อตแลนด์นั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดที่เมืองเลอร์วิ๊ค ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่เก่าแก่ที่สุดของประเพณี yule ผู้คนนับพันจะแต่งกายย้อนยุค และพาผู้ที่มาเที่ยวงานย้อยเวลากลับไปยังช่วงเวลาที่ไวกิ้งยังคงรุ่งเรืองอยู่

6. Albuquerque International Balloon Fiesta | USA

ท้องฟ้าเหนือเทศกาลประจำปีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นนี้จะเต็มไปด้วยบอลลูนหลากสีสรร ที่มีรูปร่างและขนาดต่างๆ กันมากมายติดต่อกันยาวนาน 9 วัน มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายไปพร้อมๆ กับการชื่นชมบอลลูนที่สวยงาม บอลลูนแปลกๆ หรือบอลลูนพิเศษๆ ลอยอยู่บนท้องฟ้าเป็นฉากหลัง และงานนี้เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลบอลลูนที่สวยที่สุดในโลกเลยทีเดียว  

5. Carnival of Brazil

เทศกาลประจำปีนี้ถือเป็นลักษณ์ของการเริ่มต้นของ Lent หรือช่วงเวลา 40 วันก่อนคริสตมาสในบราซิล โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากเทศกาลของชาวพื้นเมืองในซาทัวร์นาเลีย ในช่วงเทศกาลนี้ คนทั้งโลกจะได้ดูทั้งการแต่งกายและการแสดงดนตรีที่สดใสร่าเริง โดยเฉพาะเหล่านักเต้นแซมบ้าที่จะออกมาโชว์ลีลาอันโดดเด่นของพวกเขาบนท้องถนน ในชุดหรูหราอลังการ

4. Lantern Festival | Asia

เทศกาลโคมไฟมีการเฉลิมฉลองอยู่ในหลายประเทศในเอเชียมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน ในวันที่ 15 ตามปฏิทินจันทรคติ เป็นการระบุถึงวันสุดท้ายของปีใหม่ตามจันทรคติ หรือก็คือประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ในสิงคโปร์และมาเลเซียจะเป็นที่รู้จักกันในนามของเทศกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งจัดในวันที่ 15 ของเดือน 8 ตามปฏิทินจีนและเวียดนาม ซึ่งก็คือเดือนกันยายนหรือตุลาคมนั่นเอง แม้ว่าจะจัดในช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่เทศกาลโคมไฟของทุกแห่งก็จะมีการประดับประดาโคมไฟอย่างงดงามละลานตาไม่แพ้กันเลยทีเดียว   

3. International Sand Sculpture Festival | Portugal

นี่คือเทศกาลประติมากรรมทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จัดขึ้นในเมือง Algarve ประเทศโปรตุเกศ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องถ้ำที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ เทศกาลนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2003 มีศิลปินเข้าร่วมงาน 60 คน ใช้ทราย 35,000 ตันเพื่อสร้างงานศิลปะจากทรายกว่า 50 ชิ้นขึ้นมา ประติมากรรมทรายเหล่านี้ แม้จะอยู่ได้เพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นแต่ก็งดงามจับตา และเป็นการแสดงออกถึงความสามารถของศิปลิผู้สร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี และเทศกาลนี้ยิ่งงดงามโดดเด่นขึ้นไปอีก เมื่อจัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางฟุต บนชายหาดอันสวยงามของประเทศโปรตุเกศ

2. The Sapporo Snow Festival | Japan

ช่วงเวลา 7 วันในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่เมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น จะมีการจัดงานเทศกาลหิมะขึ้น และเป็นหนึ่งในงานเทศกาลฤดูหนาวที่โดดเด่นที่สุดของณี่ปุ่นอีกด้วย เทศกาลนี้เริ่มต้นมาจากการที่เด็กนักเรียนท้องถิ่น 6 คนได้สร้างรูปปั้นหิมะขึ้นมา 6 ชิ้นในปี 1950 และในปีต่อๆ มาก็มีคนมาชมมากขึ้นเรื่อยๆ และองค์กรต่างๆ ก็เริ่มมาร่วมสร้างประติมากรรมหิมะ และร่วมจัดเทศกาลหิมะด้วย จนกระทั่งโด่งดังอย่างในปัจจุบันนี้ ทุกวันนี้มีผู้คนนับล้านมาเยือนเมืองซัปโปโร เพื่อชมรูปปั้นและประติมากรรมหิมะ ที่เปลี่ยนเมืองซัปโปโรให้กลายเป็นดินแดนที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย

1. Holi | Hindu Nations

ประเทศอินเดียคือดินแดนแห่งสีสรร และเป็นแหล่งกำเนิดของเทศกาลที่มีสีสรรมากที่สุด หรือเทศกาลโฮลี เทศกาลฮินดูโบราณนี้เฉลิมฉลองโดยชาวฮินดูจากทุกประเทศ จากทุกคนที่มีพื้นเพมาจากประเทศอินเดีย การเฉลิมฉลองนี้จะเป็นการปาสีใส่กัน โดยสีทำมาจากผงแป้งที่เรียกว่า Ghulal, Aabir และอื่นๆ หรือน้ำผสมสี ซึ่งเข้าเป็นอย่างยิ่งกับการฤดูใบไม้ผลิ ฤดูกาลแห่งความรักและสีสรร ทุกคนจะเต็มไปด้วยสีสรร ความรัก และความสุขในช่วงเทศกาลโฮลีอันสนุกสนานนี้

ยังมีเทศกาลอื่นๆ อีกมากมายให้ไปเยี่ยมชมทั่วโลก การเฉลิมฉลองที่สวยงามและยิ่งใหญ่เหล่านี้คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสงบและความสุขที่มาจากภายในของผู้คน แต่ถึงจะไม่ได้อยู่ในช่วงเทศกาลเหล่านี้ ในหลายๆ ประเทศก็มีสถานที่สวยงามมากมายที่ควรค่าให้คุณได้ไปเยี่ยมชมเพื่อเปิดหูเปิดตากันสักครั้งอยู่แล้ว เช่น ความงดงามสดใสของประเทศอิตาลี ความสง่างามหรูหราของฝรั่งเศส หรือความสวยงามของยุโรปในฤดูหนาวก็น่าชมทั้งนั้น